ตำหนิพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่

 ตำหนิพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่



 

ตำหนิพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิมีหู

ตำหนิพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิมีหู

 



ยกกล้องขึ้นส่อง จุดสังเกตตำหนิพิมพ์ทรงองค์พระ 11 จุด
พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิพพ์สังฆาฏิมีหูหรือหูช้าง ทุกองค์ต้องมีหูแต่อาจมีที่ไม่ติด
1.ซุ้มหวายจะเรียวเล็กกว่าพิมพ์ไม่มีหู
2.พระพักตร์เป็นผลมะตูมอูมใหญ่ ปลายเกศเป็นเส้นตรงถ้าเอียงก็ไปทางขวาเล็กน้อย ปลายเกศทุกองค์จะทะลุซุ้ม
3.หูที่เป็นสัญลักษณ์อยู่ห่างแก้มเล็กน้อย ไม่ติดกับแก้ม หูด้านขวาองค์พระจะคมชัดกว่าหูด้านว้าย จะลึกไม่เท่ากัน และจะยาวกว่าเล็กน้อย
4.ไหล่ของพระจะลู่ลงไม่ตั้งฉาก แขนจะม้วนกลมมีหักสอกเล็กน้อยให้เป็นเหลี่ยม มือที่ลงมาประสานเป็นสมาธิจะเรียวเล็กมาก นั่งเหมือนตัวโย้สามธิมือเอียงไปด้านขวา
5.เส้นสังฆาฏิเห็นได้ชัดเจน
6.หน้าตักหรือแข้งจะอวบอูมและแอ่นงอนขึ้นทั้ง 2 ข้าง
7.ใต้องค์พระจะไม่มีขีดแซมเหมือนพิมพ์สังฆาฏิไม่มีหูโดยเด็ดขาด
8.ฐานชั้นที่ 1 หรือฐานชั้นแรกอวบอูมตกท้องช้างเหมือนกล้วยหอม
9.ฐานชั้นที่ 2 ไม่ปรากฏทำเหมือนฐานสิงห็เป็นฐานขีดขึ้นมาเฉยๆ แตกต่างกับทุกพิมพ์
10.ฐานชั้นที่ 3 จะมีเส้นขอบที่ฐานเล็กน้อย
11.พระพิมพ์นี้ทุกองค์จะมีรอยปลิ้นของขอบ ยกเว้นได้มาแล้วนำไปฝนขอบเลี่ยมใส่กรอบ


(ขอขอบพระคุณความรู้จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย samakomphra )

ตำหนิพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่

 ตำหนิพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่


 1. ให้สังเกตเส้นซุ้มครอบแก้วเป็นอันดับแรก คือ เส้นซุ้มครอบแก้วทั้งเส้นซ้ายและเส้นขวามือพระ จะโย้ไปทางซ้ายมือพระทั้งหมด จึงทำให้เกิดดังนี้ เส้นกรอบแม่พิมพ์ทางขวามือพระซึ่งเป็นเส้นนูนเส้นเล็ก ๆ ลากลงมาจากด้านบนและจะเริ่มแนบเส้นซุ้มครอบแก้ว ตั้งแต่บริเวณหัวเข่าขวาพระจรดเส้นซุ้มด้านล่างสุด

2. ส่วนเส้นกรอบตำหนิพระเครื่องแม่พิมพ์ทางด้านซ้ายมือพระจะลากลงมาจากด้านบนและจะแนบเส้นซุ้มครอบแก้วตั้งแต่กึ่งกลางแขนถึงปลายข้อศอกซ้ายพระและจะกลืนหายไปกับเส้นซุ้มครอบแก้ว

3. เกศตำหนิพระเครื่องพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ จะเป็นปลีเรียวเล็ก คือโคนเกศจะใหญ่กว่าปลายเกศเล็กน้อย และจะพุ่งขึ้นจรดซุ้มทุกแม่พิมพ์ของพิมพ์ใหญ่ และเกศจะเอียงไปทางซ้ายพระเล็กน้อย

4. รูปหน้าของสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ จะคล้ายผลมะตูม เฉพาะบางแม่พิมพ์จะมีโหนกยื่นทางแก้มขวาพระ ส่วนถ้าแม่พิมพ์กดได้ลึกคมชัด จะเห็นหูซ้ายพระเป็นเส้นทิ้งตรงลงมา แต่จะเห็นแบบราง ๆ เท่านั้น

5. ให้สังเกตความกว้างของรักแร้ คือความกว้างจากรักแร้ถึงหัวไหล่ ด้านบนทางด้านขวามือพระจะหนา ส่วนทางด้านซ้ายมือพระจะบางกว่า

6. ให้สังเกตลำตัวและวงแขนพระจะนั่งบิดตัวไปทางขวาเล็กน้อยและแขนขวาพระจากหัวไหล่ถึงข้อศอกจะแลดูสั้น ส่วนทางซ้ายพระจากหัวไหล่ถึงข้อศอก จะแลดูยาวกว่า

7. ซอกรักแร้ข้างซ้ายพระช่างจะแกะแม่พิมพ์ลึกกว่าข้างขวามือพระและจะแกะแม่พิมพ์ให้ลาดเอียงจากข้างเอวพระทั้งสองข้างจะตื้น และลาดลงลึกสุดที่รักแร้พระ

8. หัวฐานชั้นบนสุดข้างซ้ายพระจะเตี้ยกว่าหัวเข่าข้างซ้ายพระเล็กน้อย และหัวฐานนี้จะยาวกว่าหัวเข่าเล็กน้อย ส่วนหัวเข่าด้านขวาพระจะเตี้ยกว่าหรือแค่เสมอหัวฐานชั้นบนข้างขวาพระ

9. หัวฐานชั้นล่าง ด้านขวามือพระช่างจะแกะแม่พิมพ์เฉียงเล็กน้อย และหัวฐานเกือบชิดเส้นซุ้ม

10. หัวฐานชั้นล่างด้านซ้ายมือพระ ช่างจะแกะหัวฐานค่อนข้างตรงและห่างเส้นซุ้ม

11. พื้นที่ ตำหนิพระเครื่องลองส่องพระย้อนกลับคือให้ส่องจากเกศพระไล่ลงมาจะได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นคือ พื้นที่ตั้งแต่เกศจะต่ำและลาดสูงขึ้นไปจนถึงข้างแขนพระทั้งด้านซ้ายและด้านขวา

12. แขนซ้ายพระตั้งแต่หัวไหล่ถึงข้อศอกช่างจะแกะแม่พิมพ์ต่ำกว่าข้างขวาพระและแกะหัวไหล่ต่ำลาดสูงขึ้นไปจนถึงข้อศอก

13. ร่องฐานระหว่างหน้าตักกับฐานชั้นบน ร่องฐานทางขวาจะตื้นและลาดลง จะลึกสุดคือปลายด้านซ้าย

14. ร่องฐานระหว่างฐานชั้นบนกับฐานชั้นกลาง พื้นที่ในร่องฐานจะเสมอภายนอก
ตำหนิพระเครื่อง

ตำหนิพระสมเด็จ 100 ปี วัดระฆัง พิมพ์เส้นด้าย นิยม

ตำหนิพระสมเด็จ 100 ปี วัดระฆัง พิมพ์เส้นด้าย นิยม

 



 

ตำหนิพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1

หลักการพิจารณา พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1

  1. เส้นกรอบแม่พิมพ์ด้านซ้ายมือพระ จะเป็นเส้นนูน ลากยาวลงมาถึงบริเวณกึ่งกลางแขนซ้ายพระ และไม่เกินข้อศอกซ้ายพระ แล้วจะชิดซุ้มและแนบกลืนหายไปในซุ้มครอบแก้ว
  2. เส้นกรอบแม่พิมพ์ด้านขวามือขององค์พระจะลากยาวลงมาถึงด้านล่าง และจะชิดเส้นซุ้มตรงมุมล่างพอดี
  3. ส่วนโค้งของซุ้มครอบแก้ว ด้านซ้ายมือพระตามลูกศรชี้จะล้มไปทางขวามือพระเสมอ
  4. เกศพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 เกศจะสั้นกว่าทุกพิมพ์ของพิมพ์ใหญ่
  5.  ใบหน้าพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 ใบหน้าจะออกเหลี่ยมไม่เป็นทรงรี
  6. รักแร้ซ้ายพระจะโค้งสูงกว่าข้างขวาพระ และเนื้อที่ระหว่างรักแร้กับหัวไหล่ ข้างซ้ายพระจะมีเนื้อที่บางกว่าด้านขวามือพระ
  7. ให้สังเกตพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 ถ้ากดพิมพ์ได้ลึกจะเห็นเส้นสังฆาฏิขนาดเล็กเรียวบาง
  8. การวางแขนของพิมพ์ใหญ่พิมพ์ที่ 1 จะค่อนข้างทิ้งตรง ๆ ลงมาทั้งสองข้าง
  9. ช่วงระหว่างระดับไหปลาร้าจนถึงมือประสาน แม่พิมพ์ที่ 1 จะดูสั้นกว่าพิมพ์อื่น ๆ
  10. ที่หัวไหล่ซ้ายพระ เฉพาะแม่พิมพ์ที่ 1 จะมีจุดเว้า 2 จุดตามลูกศรชี้
  11. หัวเข่าด้านซ้ายพระจะยกสูงกว่าหัวฐานชั้นบนด้านซ้ายพระเสมอ
  12. หัวเข่าด้านขวาพระจะเตี้ยกว่าหรือเสมอหัวฐานชั้นบนด้านขวามือพระ
  13. ร่องระหว่างปลายฐานชั้นบน ด้านขวามือพระกับปลายหัวเข่าด้านขวามือพระจะแคบ ส่วนปลายหัวเข่าและปลายฐานชั้นบน ด้านซ้ายมือพระจะกว้างกว่า
  14. เส้นแซมใต้ตักให้สังเกตให้ดี จะเป็นเส้นนูน เส้นนี้จะเริ่มลากมาจากใต้เข่าขวาพระโดยจะมีช่องห่างจากเข่าเล็กน้อย เส้นนี้จะลากโค้งขึ้นไปเกือบติดใต้เข่าแล้วค่อยโค้งม้วนลงไปซุกใต้เข่าซ้ายพระ เส้นแซมนี้จะเป็นเอกลักษณ์ของแม่พิมพ์ที่ 1
  15. ส่วนบนสุดของฐานชั้นบนตามลูกศรชี้ จะมีเส้นนูนเส้นเล็ก ๆ 1 เส้น ลากยาวเกือบสุดฐานน่าจะเป็นร่องรอยของเครื่องมือแกะแม่พิมพ์
  16. พื้นที่ในซุ้มครอบแก้วจะต่ำกว่าพื้นที่นอกซุ้มครอบแก้วเล็กน้อยต้องส่องกล้องแบบตะแคงข้างส่องจึงจะมองเห็น
  17. ร่องระหว่างฐานชั้นกลางกับฐานชั้นบน พื้นที่ภายในร่องจะสูงเสมอกับพื้นรอบตัวองค์พระ